
ยืนตรง สะพายกล้องฟิล์ม สาวใส่เสื้อยืด Mary is Happy หนุ่มใส่เชิ้ตติดกระดุมบน สาวๆถ่ายแสงแดดอ่อนๆ ดอกไม้และขนมเค้กจากมุมบน ถ่ายรูปดอกไม้ให้ย้อนแสง หนุ่มก็ถ่ายสาวๆที่กำลังถ่ายรูปอีกที ..
นี่อาจจะเป็นคำอธิบายภาพสั้นๆ เกริ่นนำของวัยรุ่นไทยกับกล้องฟิล์มในวันนี้..
เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาที่ผ่านมา เรา คุณภรรยา และเพื่อน และน้องเพื่อน ตัดสินใจเดินทางไปทริปญี่ปุ่นแบบตะลอนๆทางภาคอีสานของญี่ปุ่น ยาวๆ 12 วัน ระยะทางประมาณ 1,600 กิโลฯ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรากำลังอินกับกล้อง Mirrorless ที่ขนเอาเลนส์เก่ายุค ‘60s ไปแบบเต็มที่ ซึ่งก็สนุกสนานดีตลอดการเดินทาง ได้ภาพมานับพันรูป แน่นอนว่าถ้าเป็นฟิล์มคงล้มละลายไปแล้ว แต่คุณภรรยาก็พกเอา Olympus Pen EE ปี 1962 พร้อมฟิล์มอีก 3 ม้วนไปถ่ายกันเล่นๆ
ตลอดทางที่เราเดินทางไปหลายจังหวัดนั้น จุดที่จะต้องแวะแบบนับครั้งไม่ถ้วนเลยก็คือมินิมาร์ท ไม่ว่าจะ Family Mart หรือ Lawson เพราะเป็นที่เดียวที่จะเข้าห้องน้ำได้ตลอดเวลา เข้าหลายที่มาก และหน้าตาเหมือนกันจนงงว่า เฮ้ย..กูย้อนกลับไปที่เดิมหรือเปล่าวะ
ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ห้องน้ำในมินิมาร์ทหรอก.. มันอยู่ที่เวลายืนรอคุณภรรยา หรือเพื่อนๆเข้าห้องน้ำนั้น เราก็เดินดูของในมินิมาร์ทไปในตัว สิ่งหนึ่งที่เราสงสัยมากก็คือ ทุกร้าน มันมีฟิล์ม Fujifilm Superia 400 ขายอยู่ทุกที่!! ไม่ใช่แค่ฟิล์มนะ บางทีก็มีกล้องฟิล์มแบบใช้แล้วทิ้งเลย ( หรือที่เรียกว่า Quick Snap ) วางขายอยู่ ทั้ง Fujifilm หรือ Kodak ก็ตาม ราคาของฟิล์มก็ตกประมาณม้วนละ 180 บาท ซึ่งก็เป็นฟิล์มใหม่เอี่ยมเลย เสียดายที่ไม่ได้ซื้อกลับมา

คำถามนี้มันยังคงมีต่อเนื่องว่า เฮ้ย.. ตามท้องถนนในญี่ปุ่นนี่มันมีคนใช้กล้องฟิล์มกันขนาดนั้นเลยเหรอ? เราเองก็พยายามสังเกตตลอดนะ แต่ส่วนใหญ่จะไปในที่กันดานๆ ไม่ได้อยู่ในเมืองสักเท่าไหร่ แต่มีอยู่ที่นึง ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะเป็นที่เซนได ที่เห็นว่าเด็กวัยรุ่นกลุ่มนึง ยกกล้อง Snap มาถ่ายกัน ซึ่งแน่นอนว่าไอ้กล้อง Snap ที่มองผ่านช่องมอง Viewfinder แบบนี้ หน้าตาทรงนี้ มันคงไม่ใช่กล้องดิจิตอลแน่นอน
ส่วนตัวเราเอง ก็มักจะอัพโหลดรูปบน Flickr อยู่เป็นประจำ ข้อสังเกตนี้มันไปเชื่อมโยงกับการที่เราพบว่า มีวัยรุ่นญี่ปุ่นมากมาย ที่ชอบถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์มแล้วอัพโหลดเข้าไป โดยเฉพาะกล้องฟิล์มสัญชาติญี่ปุ่นทั้งหลาย ทั้ง Olympus , Nikon , Canon , Minolta อะไรเทือกๆนั้น หรือถ้าไฮโซหน่อย ก็ไปถึงกล้อง Rolleiflex กล้อง Hasselbald แบบ Medium Format สไตล์ภาพก็จะดูเป็นแนว Snap โทนสี Hi-key หน่อย ถ่ายดอกไม้ใบหญ้ากันไป
ถ้าเราค้นต่อๆไปจะพบว่า สไตล์นี้ ไม่ใช่หยุดอยู่เฉพาะวัยรุ่นญี่ปุ่น แต่รวมไปถึง วัยรุ่นเกาหลี วัยรุ่นไต้หวัน ซึ่งสไตล์เหมือนกันยังกะแกะ ทั้งการถ่าย การแต่งตัว ถ้าจะเรียกว่ามันเป็น Culture ก็ดูจะไม่เกินไป


เราเริ่มสนใจ Culture ของการใช้กล้องฟิล์มมากขึ้นๆ โดยเฉพาะเมื่อ “เต้” เพื่อนที่มีอาชีพเป็นช่างภาพจริงจัง ได้บอกวลีที่น่าสนใจว่า “ กล้องดิจิตอลมันสำหรับคนแก่ กล้องฟิล์มน่ะ มันสำหรับวัยรุ่น” อืม.. น่าสนใจๆ เราเลยลองค้นๆข้อมูลที่ดูเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น
“The Impossible Project” เป็นโปรเจคของบริษัท Impossible America ที่ตั้งใจจะปลุกชีพเจ้ากล้อง Polaroid ขึ้นมาใหม่ ในยุคที่ทุกคนใช้ Instagram กันหมดแล้ว ( กล้อง Polaroid ลาจากโลกอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2008 โดยการประกาศเลิกผลิตฟิล์มสำหรับ Polaroid ) นั่นหมายความว่า บริษัทนี้จะผลิตฟิล์มและอะไรก็ตามที่จำเป็นสำหรับการถ่ายรูปด้วยกล้อง Polaroid ขึ้นมาขายให้จงได้
เจ้าบริษัทนี้ บอกว่า ในโลกนี้มีกล้อง Polaroid ที่ใช้งานได้อยู่ราว 100 ล้านตัว และทุกวันนี้ในตลาดของเก่า กล้อง Polaroid ยังถูกขายออกไปวันละไม่ต่ำกว่า 2,500 ตัว ถ้าเราผลิตฟิล์มเพื่อปลุกชีพมันขึ้นมาได้ล่ะ.. จะเกิดอะไรขึ้น?
ไอ้เจ้าบริษัทนี้เพิ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว และจะเป็นยังไงต่อ ไม่ใช่ประเด็นเท่าไหร่ แต่สิ่งที่น่าสนใจของเจ้าบริษัทนี้ ไม่ได้อยู่ที่การผลิตฟิล์มขึ้นมาอย่างเดียว แต่เราสนใจข้อมูลที่เจ้าของบริษัทได้พูดไว้ว่า ลูกค้าของพวกเค้า แทบจะทั้งหมด เป็นเด็กหนุ่มสาวทั้งนั้น ซึ่งแน่นอนว่า เด็กเหล่านี้เติบโตมาในยุคดิจิตอลแบบ 100%
CNet เคยเขียนคอลัมน์เมื่อปี 2011 เกี่ยวกับวัยรุ่นที่กำลังหันกลับไปสนใจกล้องฟิล์มกัน เค้าสัมภาษณ์น้องผู้หญิงคนนึง อายุ 17 ปี เป็นเด็กที่อยู่ในซานฟรานฯ น้องคนนี้เล่าให้ฟังว่า เธอก็เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วๆไปที่คลุกอยู่กับการใช้ดิจิตอลต่างๆนาๆ เล่น facebook อะไรก็ว่าไป และมีแผนจะเรียนต่อนิเทศศาสตร์ที่ New York University
เธอเล่าให้ฟังว่า ไม่ใช่แค่เธอคนเดียวที่สนใจในกล้องฟิล์ม เพื่อนๆวัยรุ่นหลายๆคนสนใจการย้อนกลับไปสู่อดีตด้วยการทิ้งเจ้าวัตถุดิจิตอลทั้งหลายแหล่ อย่างน้อยๆก็ช่วงเวลาหนึ่ง แล้วหยิบเทคโนโลยีรุ่นคุณปู่คุณย่ามาใช้กัน เริ่มกันตั้งแต่กล้องโลโม่ทั้งหลาย Holga , Diana หรือกล้อง 35mm ทั่วๆไปอย่าง Minolta หรือ Nikon หัวใจหลักที่วัยรุ่นให้ความสนใจเจ้ากล้องฟิล์มก็คือ พวกเค้าเบื่อที่จะถ่ายอะไรง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้ความสามารถอะไรเท่าไหร่ การใช้กล้องฟิล์มมันท้าทายพวกเค้าด้วยระบบ Manual ตั้งค่าอะไรด้วยตัวเองซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ฝังลึกอยู่ในวัยรุ่นทุกยุคทุกสมัย
“ไม่ว่าใครก็หลงใหลในอดีตกันทั้งนั้นแหล่ะค่ะ” เด็กสาวอีกคนหนึ่ง อายุ 18 ปี ให้สัมภาษณ์ได้กล่าวเอาไว้ด้วย น้องคนนี้ยังบอกต่อว่า การถ่ายภาพดิจิตอลเนี่ย มันทำให้เราถ่ายอะไรไม่ผิดพลาดซะเลย แต่ฟิล์มเนี่ย เราคาดเดาอะไรไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันทำให้เราตื่นเต้นทุกๆครั้งเวลาที่เราไปล้างฟิล์ม อัดรูปออกมา บางครั้งมันก็ได้สีประหลาดๆ เลอะๆ แสงโอเว่อร์

ข้อมูลนึงที่น่าสนใจเมื่อหลายปีก่อนของ The Photo Marketing Association บอกไว้เมื่อปี 2010 ว่า ยอดขายกล้องดิจิตอลในอเมริกาช่วงเดือนกันยายน 2010 มียอดขายลดลง 2% ตั้งแต่ช่วง Summer ปี 2009 ถึง 2010 ในขณะที่กล้องฟิล์มมีการซื้อขายในตลาด (หมายถึงในตลาดสินค้ามือสอง) ในช่วงเวลาเดียวกัน สูงขึ้น 30 – 40%
** ความเห็นส่วนตัวว่า การตกลงของยอดขายกล้องดิจิตอล ไม่เกี่ยวกับกล้องฟิล์ม แต่เกี่ยวกับการเติบโตของมือถือ Smartphone ที่สามารถถ่ายรูปได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถึงปีปัจจุบันนี้ก็เห็นได้ชัดเจนแล้ว
มีการวิเคราะห์กันว่า ส่วนหนึ่งที่เทรน Retro นี้เกิดขึ้น น่าจะมาจากการเติบโตของ Instagram ซึ่งนำเอาบรรยากาศของยุคกล้องฟิล์มกลับมา ไม่ว่าจะโทนเอฟเฟคแบบกล้องโลโม่ หรือฟิล์มเก่า และสัดส่วนของรูปภาพแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสตามแบบกล้อง Medium Format
Ed Lee แห่ง InfoTrends ได้บอกไว้ว่า เหตุผลนึงที่ความนิยมในกล้องฟิล์มมีมากขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น เพราะกล้องดิจิตอลเติบโตมาเป็นเวลานับสิบปีแล้ว ซึ่งเด็กๆยุคนี้ ไม่เคยรู้จักกล้องฟิล์มมาก่อนแม้แต่น้อย ทำให้มันเหมือนของเล่นใหม่สำหรับพวกเค้า ประมาณว่า “Analog is the New Digital” ของเด็กๆ
เวลาผ่านไปเกือบ 3 ปีแล้ว จากบทความที่เล่ามา เทรนของกล้องฟิล์มได้พิสูจน์ได้ในระดับนึงว่า มันยังคงอยู่ในกลุ่มเด็กวัยรุ่นทั่วโลก ไม่ได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว แต่แทรกซึมอยู่ทั่วๆไป เราอาจจะมองเห็นกล้องดิจิตอลในหลายๆปีที่ผ่านมา ว่าเริ่มมีรูปทรงที่ย้อนยุคแทบจะทุกตัว เพราะตลาดของกล้องดิจิตอลเองก็ต้องสู้รบกับมือถือที่ถ่ายรูปง่ายกว่า สวยเพียงพอแล้วสำหรับคนใช้งานทั่วๆไป ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่ของกล้องดิจิตอลก็คือกล้อง Consumers ทั่วๆไป กำลังโดนแย่งด้วย iPhone และ มือถือ Android ดังนั้นการสร้าง Passion ในสินค้าประเภทกล้องจึงเกิดขึ้นแทน Functional
ทั้ง Olympus และ Fujifilm คือผู้นำตลาดกล้องดิจิตอลในวันนี้ ที่พาให้ตลบอบอวลไปด้วยความ Retro เพราะในอดีต ทั้ง 2 แบรนด์นี้มีประวัติศาสตร์กล้องฟิล์มที่น่าจดจำ ตามมาด้วยอีกหลายๆเจ้าที่ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป เช่น Nikon ที่เข็นเอา Nikon Df ราคาเฉียดแสนเข้าไปทุกที ที่มีรูปทรงชวนให้นึกถึงกล้อง Nikon FM3 เมื่อสมัยกว่า 30 ปีที่แล้วที่เป็นประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่เช่นกัน โดยไม่ต้องพูดถึง Function ลูกค้าที่ซื้อมันยอมจ่ายเงินก็เพราะ Passion เพราะความสวย ความมีเสน่ห์ของมันเกิน 80% กลายเป็นความหวังใหม่ของตลาดกล้อง

กระแสจากหนัง ก็มีส่วนในการสร้างเทรนได้เช่นกัน ในหนังหลายๆเรื่อง กล้องฟิล์มก็กลายเป็นส่วนประกอบที่ทำให้บุคลิกของตัวละครดูชัดเจน น่าจดจำ ดูเท่ จนคนดูรู้สึกอินตาม เช่น ใน Amazing Spider Man (2012) ที่ตัวพระเอกใช้เจ้ากล้อง Yashica Electro 35 กล้อง Rangefinder สุดฮิตแห่งยุค ‘70s ก็กลายเป็นส่วนเสริมบุคลิกที่ดูดี จนวัยรุ่นอเมริกันต่างก็ไปค้นหาเจ้ากล้องนี้มาใช้กัน

Credit ภาพ : camerasinthemedia.tumblr.com
หรือแม้แต่หนังดังเรื่องล่าสุด ที่ทำเอาหลายๆคนฝันอยากใช้ชีวิตแบบนั้นบ้าง The Secret Life Of Walter Mitty ที่ใช้บรรยากาศโลกของฟิล์มเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินเรื่อง การได้ถ่ายรูปด้วยวิธีเดิมๆ การได้เห็นกล้อง Nikon F3/T สุดคลาสสิค กลายเป็นเทรนที่ทำให้หลายๆคนกลับบ้านไปค้นกล้องฟิล์มในห้องเก็บของมาปัดฝุ่นอีกครั้ง

ในกลุ่มวัยรุ่นไทย อย่างที่ได้เล่ามาตั้งแต่ต้น เราเชื่อว่ากระแสความฮิตกล้องฟิล์มในหมู่วัยรุ่น มันเกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นมวลความฮิตที่ส่งผ่านไปมาระหว่างวัยรุ่นทั่วโลก ทั้งการแต่งตัว Lifestyle ต่างๆที่เหมือนๆกัน ในเมื่อโลกวันนี้เชื่อมต่อกันด้วย Social Network กล้องฟิล์มก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในแฟชั่นนั้น หรือ DNA ที่ฝังรากลึกอยู่ในวัยรุ่นทุกคน ที่ชอบทำอะไรที่ท้าทาย อะไรที่จะทำให้ตัวเองแตกต่างจากเพื่อน และที่สำคัญอีกข้อ นั่นก็คือ “สื่อ”
เมื่อปีก่อน ความฮิตของ “หมอก” ตัวละครในซีรี่ย์ “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” สุดฮิตคือตัวจุดประกายกล้องฟิล์มของเด็กไทยที่ต้องยอมรับว่า ทำให้เจ้ากล้อง Minolta Hi-Matic F ขาดตลาด!! และราคาขึ้นกันเป็นว่าเล่น ร้านขายกล้องฟิล์มหลายเจ้าถึงกับหมดปัญญาจะหามาขายได้ทันความต้องการเลยทีเดียว

เราเองก็เริ่มสะสมกล้องฟิล์ม ลองไปลองมา ก็ได้ขายไปเรื่อยๆเป็นงานอดิเรกเช่นกัน มีน้องๆเด็กมัธยมโรงเรียนชื่อดังคนนึงซื้อเจ้ากล้อง Olympus OM-1 ไป น้องเองก็เพิ่งเคยหัดเล่น ซึ่งก็เล่นตามเพื่อนๆที่มีกล้องฟิล์มเช่นกัน น้องอาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องฟิล์มสักเท่าไหร่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก แต่มีความกระตือรือร้นที่จะเล่น เพราะอย่างที่เขียนเล่าไว้ด้านบน เด็กยุคนี้คือเด็กที่เกิดไม่ทันกล้องฟิล์มเลย เพราะฉะนั้น มันคือของใหม่ในชีวิตที่ต้องเรียนรู้ ซึ่งเราก็ยินดีและเต็มใจที่จะแนะนำ
แต่ใช่ว่าความฮิตของกล้องฟิล์มในหมู่วัยรุ่น จะเพียงพอต่อการอยู่รอดของอุตสาหกรรมนี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมฟิล์ม ถูกปิดตัวไปนานหลายปี ไม่ว่าจะเป็น Kodak , Poraloid , Agfa และอื่นๆ รวมไปถึงรายย่อยๆอย่างคุณลุงคุณป้าร้านถ่ายรูปแถวพลับพลาไชย หรือร้านถ่ายรูปอื่นๆที่เคยล้าง-อัดฟิล์มกัน
กันยายน ปี 2013 หลังจาก Kodak พ้นจากสถานะล้มละลายแล้ว สิ่งหนึ่งที่ Kodak กลับมารักษาสิ่งที่เป็นต้นกำเนิดของบริษัทไว้ นั่นก็คือการกลับมาผลิตฟิล์มอีกครั้ง ภายใต้บริษัท Kodak Alaris ซึ่งจะไม่ใช่แค่ผลิตฟิล์ม แต่หมายถึงการให้บริการแบบครบวงจร นั่นถือว่าเป็นความหวังที่ส่องแสงได้สว่างที่สุดของวงการในช่วงเวลานี้
ทุกวันนี้ ธุรกิจเกี่ยวกับฟิล์มยังเป็นเพียงความรักความหลงใหล ไม่ใช่ธุรกิจที่รุ่งเรืองเหมือนสมัยก่อน และคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่มันจะเป็น Golden Age ได้อีกครั้ง หลายๆคนที่รักการถ่ายรูปด้วยฟิล์มก็หวังให้มันอยู่ยงไปอีกนานๆ ต่อชีวิตให้กับฟิล์มให้คนที่รักมันได้ชื่นใจ ได้กลั้นหายใจกดชัตเตอร์กันต่อไปนานๆ และหวังว่า “วัยรุ่น” จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้กับโลกของฟิล์มได้ต่อลมหายใจออกไปอีกเรื่อยๆ
บทความ โดย SUN



ผู้สนับสนุนหลัก Husband and Wife Shop
จำหน่ายอุปกรณ์ถ่ายภาพฟิล์มกล้องอุปกรณ์ล้างฟิล์มสแกนฟิล์มและบริการต่างๆ

Reblogged this on atittee.
ชอบกล้องฟิล์มมานานแล้วค่ะ แต่ตัดสินใจนานมากว่าจะซื้อดีมั้ย เพราะเคยใช้กล้องdslr แต่ก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย ตัดสินใจเกิน4เดือน ตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว เพิ่งได้กล้องที่ถูกใจเมื่อวานซืนเองค่ะ ตื่นเต้นมาก รู้สึกว่าอะไรที่เราได้มีส่วนร่วมมากที่สุด จะอยู่ได้นานที่สุดนะคะ กล้องฟิล์มเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ให้เราได้ใส่ความเป็นตัวเองลงไป ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะ 🙂
ชอบกล้องฟิล์มมานานแล้วเหมือนกันกับ คห. บน แต่ใช้ไม่คล่อง ใช้เวลาตัดสินใจนานมาก 555 ตอนแรกเลย ติดเรื่องเข้ามหาลัยกลัวซื้อมาแล้วไม่มีเวลาเล่น พอเข้ามหาลัยได้ปุ๊บ ก็ซื้อทันทีค่ะ ฟินๆ ไป ตอนนี้ก็ติดใจอารมณ์ตอนรอภาพมากๆ ค่ะ อยากรีบล้าง รีบสแกน รีบโพส แต่ทำไม่ได้ ล้มละลายแน่ เงินไม่หนา ปัญหาใหญ่
ชื่นชมหลงไหลความธรรมชาติไม่ต้องปรุงนั้นนึ้จนพอไปสถานที่จริงผิดกันราวฟ้ากับดิน
ตอนนี้หยิยกล้อวเก่าเก็บของครอบครัวที่เรานึกว่ามันหายไปแล้วกลับมาลองใส่ฟิล์มแล้วใช้ดู ตื่นเต้นมากหัวใจพองโตสุดๆ
เสียดายเมื่อครั้งวัยรุ่นเคยมีโอกาสใช้กล้องฟิล์ม แต่ไม่มีโอกาสได้เห็นภาพที่ถ่ายและได้ใช้มันเป็นครั้งสุดท้าย
ปลุกความซนในตัวคุณอีกครั้ง “ กล้องดิจิตอลมันสำหรับคนแก่ กล้องฟิล์มน่ะ มันสำหรับวัยรุ่น”