** First Edition ** April 2014
** Second Edition ** Oct 2014 เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนราคาในตลาด และหลายๆรูปอาจจะไม่ชัดเจนถึงสไตล์ของฟิล์ม เลยปรับเปลี่ยนแก้ไขในครั้งที่สองนี้
** Third Edition ** Feb 2015 Kodak มีปรับเปลี่ยนราคาใหม่ทั้งหมด ในเดือนมีนาคม
** Forth Edition ** July 2015 Kodak มีปรับเปลี่ยนราคาใหม่ทั้งหมด
** Fifth Edition ** Aug 2017 Kodak มีปรับเปลี่ยนราคาใหม่ทั้งหมด ** Sixth Edition ** Mar 2019 เพิ่มคลิป Youtube Channel
นึกๆเอาไว้เหมือนกันว่า อยากรวบรวมสไตล์ฟิล์มแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ เอาไว้ พร้อมกับลิ้งค์ร้านที่ขายฟิล์ม เป็นไกด์ให้กับหลายๆคนที่เพิ่งเคยเล่นกล้องฟิล์ม รวมถึงตัวเราเองด้วย เวลาที่นึกโทนภาพไม่ออก หรือ นึกจะซื้อร้านไหนก็ดูได้เลย ซึ่งจริงๆเราเองก็ไม่ค่อยได้ลองฟิล์มแปลกๆสักเท่าไหร่นะ เวลาเทสกล้องก็ใช้ตัวเดิมๆที่ชอบมากกว่า แต่ก็พอจะมีตัวอย่างเก็บเอาไว้บ้าง
การเลือกฟิล์มนี่สำคัญมากนะ พอๆกับการเลือกกล้องนั่นแหล่ะ อย่าลืมว่ากล้องดิจิตอลมันเปลี่ยนสีหรือ ISO อะไรก็ได้ตามใจ ในขณะที่กล้องฟิล์มเนี่ย จะไปไหน ถ่ายอะไร ต้องวางแผนและเลือกสไตล์ของฟิล์มที่ชอบซะก่อน
วันนี้เลยจะเขียนบล็อกที่ว่าด้วยเรื่องฟิล์มสี 135 ที่พอจะหากันได้ทั่วไปตามเพจ Facebook หรือ ร้านอัดรูปใหญ่ๆ ว่าแต่ละรุ่น มีแนวแบบไหน เลือกมาส่วนหนึ่งที่เห็นๆกันบ่อยๆ อาจจะขาดตกบกพร่องยังไง เราอาจจะไม่ได้ถ่ายรูปสวยมาก น้องๆม.ปลายบางคนถ่ายมาซะสวยเลย อายจุง.. แต่ก็พยายามคัดรูปที่ให้เห็นแนวทางสีหรือโทนภาพให้ชัดที่สุด ถ้ามีตัวไหนที่สนใจเพิ่มจากฟิล์มพวกนี้ มาช่วยกันเติมได้นะ เอาไว้จะเขียนเพิ่มเติมอีก เป็นการช่วยกันแชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับคนรักกล้องฟิล์มด้วยกัน
อ่ะ.. เจ้าฟิล์ม 135 นี่ก็มีหลากหลายยี่ห้อ ไอ้ยี่ห้อหลักๆที่ไว้ใจได้ก็มี Kodak , Fujifilm ที่เรียกว่ายังผลิตกันอยู่ มีของค้างสต็อกกันบ้างก็ว่าไป ส่วนใหญ่ก็จะเล่นกัน 2 ประเภทคือ ฟิล์มปกติที่ยังไม่หมดอายุ กับอีกประเภทนึงต้องการความแปลก ความท้าทาย ความเสี่ยงแบบคาดเดาผลไม่ได้ ก็คือพวกฟิล์มหมดอายุ หรือที่เรียกกว่าภาษาบ้านๆว่า “ฟิล์มบูด”
เนื่องจากฟิล์มเนี่ยมันก็มียุคเสื่อมความนิยมลงไปเมื่อหลายปีก่อน ทำให้หลายๆบริษัทก็พากันปิดตัว เลิกผลิตไป หลายๆปีผ่านไปฟิล์มที่ค้างสต็อคก็ถูกนำมาใช้เรื่อยๆนะ เจ้าฟิล์มบูดเนี่ย ดูที่วันหมดอายุแบบปลากระป๋องน่ะ ถ้าหมดอายุผลจะเป็นยังไงไม่มีใครบอกได้ มันอาจจะให้สีสดมากๆ หรืออาจจะมีซีด สีเพี้ยนอย่างรุนแรง หรืออาจจะมีเอฟเฟคแสงพาดผ่านกับรูปบางรูปโดยคาดไม่ถึง หรือหลายๆครั้ง ก็ถ่ายไม่ติดเอาซะเลย (อาเฮียเจ้าของร้านฟิล์มหลายๆร้านถ่ายรูปสมัยก่อนก็จะงงว่าไอ้เด็กสมัยนี้ มันจะเอาฟิล์มเสียไปถ่ายกันทำไม)
ISO คืออะไร?
อีกเรื่องที่เราจะต้องรู้กันไว้ก่อนคือค่า ISO ซึ่งก็คือความไวแสงของฟิล์มนั้นๆ ปกติทั่วไปก็มี 100 , 200 , 400 , 800 อันนี้เบสิค แปลกกว่านี้ก็ละเอาไว้ก่อน ไอ้ 100 เนี่ย เหมาะกับถ่ายที่กลางแจ้งมากๆ เนื้อฟิล์มมีความละเอียด Grain ภาพนี่เม็ดเล็กเนียนไปเลย ( Grain นี่ลองสังเกตที่รูปที่ถ่ายด้วยฟิล์มแต่ละรูปนะ ลองขยายภาพดู มันจะเป็นเม็ดๆละเอียดๆ มากน้อยแล้วแต่ฟิล์ม แต่เป็นเอกลักษณ์ของการถ่ายด้วยฟิล์มนี่แหล่ะ ) บางคนก็ชอบที่มันเนียนสวยดี แทบจะเหมือนถ่ายดิจิตอล ไอ้ที่ไม่ชอบก็ว่ามันไม่เห็นความเป็นรูปฟิล์ม ต้องฟิล์มที่ Grain ชัดๆสิ ถึงจะสวย แล้วแต่รสนิยม
ความแตกต่างง่ายๆคือ ถ้า ISO 100 หรือน้อยๆเนี่ย ถ้าเอาไปถ่ายที่มืดๆเนี่ย กล้องก็ต้องปรับความเร็วชัตเตอร์ต่ำมากๆ โอกาสสั่นหรือได้ภาพที่มืดก็สูงกว่า เป็นต้น ส่วนไอ้ 200 , 400 , 800 ก็คือ ยิ่งสูง ฟิล์มยิ่งไวแสงมาก ถ่ายที่มืดได้ดีกว่า ฟิล์มหยาบกว่า เห็น Grain ภาพชัดๆ บางคนชอบก็เพราะมันมีเสน่ห์แบบฟิล์ม เป็นต้น เข้าใจตรงกันนะ…
*** ตัวอย่างภาพทั้งหมดนี่ เราถ่ายเอง และล้างเองด้วยน้ำยา Tetenal C-41 นะ ***
มาเริ่มกันเลยดีกว่า
1. Kodak Color Plus 200

ตัวนี้ยังมีผลิตอยู่ เราเองไม่รู้ที่มาว่ามันผลิตมาจากไหน เพราะในเวบ Official ของ Kodak ก็ไม่มีรุ่นนี้ แต่เวลาดูข้างกล่องก็มีว่านำเข้าโดย บ.โกดัก ประเทศไทย เจ้านี่เหมาะกับมือใหม่มากๆ เพราะราคาถูกสุดในท้องตลาด และ ISO 200 ก็เหมาะกับถ่ายสภาพกลางๆ กลางวันก็ได้ เย็นก็ดี ออกแนวจับฉ่าย ถ่ายได้หมด โทนสีของเจ้านี่ออกเหลืองนะ คุณภาพกลางๆ Contrast หรือความเข้มแสง จะน้อยหน่อย เราใช้คำว่ามันบางอ่ะ เราว่ามันออกแนวญี่ปุ่นๆ โดนแดดแล้วใช้ได้เลย ส่วนตัวชอบใช้ตัวนี้ลองกล้องนะ ใช้ทุกตัวเลย ซื้อตุนไว้ตู้เย็นเป็นตับ (ตุนไว้พอๆกะโค้ก) ฟิล์มตัวนี้น่าจะเหมาะกับวัยรุ่นทั่วไป
ราคา
ปัจจุบัน ถ้าเป็นแบบยังไม่หมดอายุนะ
ราคา 80 – 100 บาท
ราคา 100-115 บาท
Olympus 35 RC
Canon VIT
Olympus 35 RC
2. Kodak Gold 200

ตัวนี้ก็ยังมีในปัจจุบันกาลเช่นกัน มีใหม่เรื่อยๆ เป็นฟิล์มซุปเปอร์คลาสสิคตลาดกาล ไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่นมาแล้ว Kodak พัฒนากันตั้งแต่เรายังไม่เกิด เจ้านี่ให้ Contrast ภาพที่ดีกว่า Color Plus 200 พอสมควร แต่ก็ออกโทน Bright และ Warm อยู่นะ ให้สีค่อนข้างถูกต้องกว่า ถ้าเกิดสแกนภาพเองจะเห็นเลยว่า สแกนมันจะจับสีมาถูกต้องง่ายกว่า ไม่ค่อยผิด แต่สีก็ไม่จัดจ้านมากไปนะ ออกแนวจริงๆจังๆ Grain ฟิล์มสวยงาม ตัวนี้ก็เป็นตัวสามัญประจำบ้านเหมือนกัน ต้องมีติดบ้านไว้
เจ้า Gold นี่จริงๆมี ISO 100 , 400 ด้วย แต่แพงกว่า หายากกว่า ส่วนใหญ่หาง่ายๆก็ ISO 200 เหมาะกับสภาพทั่วๆไป กลางวันก็ได้ เย็นก็ดี ส่วนใหญ่เราชอบเวลาเอาไปถ่าย Street นะ Contrast ดี มิติดี ที่สำคัญ.. ราคาถูก ฮาๆๆ
ราคา
ปัจจุบัน ถ้าเป็นแบบไม่หมดอายุนะ
ราคา 100 – 115 บาท
ราคา 180 – 190 บาท
Fujifilm Klasse S
Fujifilm Klasse S
Nikon F65
3. Kodak Proimage 100
เป็นฟิล์มฮิตๆอีกตัวนึง เพราะว่าราคาไม่แพง เป็นฟิล์มรุ่นใหม่ๆของ Kodak เราว่าโทนค่อนข้างใกล้เคียงกับ Kodak Color Plus 200 ผสมกับ Kodak Ektar 100 นะ ดูเป็นโทนเดียวกับฟิล์มรุ่นใหม่ๆของ Kodak สีสันจัดจ้านดีนะ จัดกว่าทั้ง 2 ตัวก่อนหน้า ( บางคนอาจจะไม่ชอบไง ชอบสีที่จริงๆมากกว่า ) Grain ค่อนข้างเนียน ดีกว่า Kodak Color Plus 200 (คงเพราะเป็น ISO 100 ด้วยล่ะ)
ISO 100 เน้นถ่ายแสงๆแดดๆ จะสวยดี โดยเฉพาะดอกไม้นี่สีดีเลยนะ เหมาะกับคนชอบถ่ายดอกไม้หวานๆอะไรแบบนี้ ที่สำคัญคือราคาไม่แพงเลย
ราคา
ปัจจุบัน ถ้าเป็นแบบไม่หมดอายุนะ
ราคา 90 – 110 บาท
ราคา 130 – 140 บาท
Olympus OM-10
Olympus OM-10
Olympus OM-10
4. Kodak Ektar 100

ตัวนี้เป็นฟิล์มรุ่นใหม่ รุ่นโปรๆใช้กัน Kodak คุยว่าเป็นฟิล์มที่ Grain สวยที่สุดในโลก!! และโคตรคม ขนาดนั้นน… ซึ่งจากที่ลองถ่ายมา มันก็สวยจริงอะไรจริง โดยเฉพาะเวลาถ่ายคน ถ่ายออกมาแทบจะเหมือนดิจิตอลเลย (อันนี้บางคนก็เลยไม่ชอบ เพราะดูไม่ค่อยเหมือนฟิล์ม เนียนไปก็ไปใช้ดิจิตอลมันซะเลย) ส่วนตัวลองแล้วถือว่าเฮ้ย.. ก็เนียนจริง ก็เหมือนดิจิตอลจริง และแพงไปหน่อย..
ISO 100 จึงเหมาะกับถ่ายกลางวัน แต่ลองถ่ายมืดๆหน่อย ก็โอเคนะ แต่ยากชิบเป๋งเลย ฮาๆๆ ส่วนตัวไม่ค่อยถนัด ISO 100 น่ะ ก็แนะนำว่า ถ่ายกลางวันนั่นแหล่ะ ถ่ายทะเล ถ่ายแฟชั่นกลางแจ้ง อะไรก็ว่าไป เค้าออกแบบมาแบบนั้น สีจัดมาก จริงมาก Contrast ดี ออกโทนสีแดงๆผสม
ราคา
ปัจจุบัน เป็นฟิล์มใหม่
ราคา 160 – 180 บาท
ราคา 235 – 255 บาท
ราคา 290 – 300 บาท
Fujifilm Klasse S
Fujifilm Klasse S
Fujifilm Klasse S
5. Kodak Portra 160

ตัวนี้น่าจะแพงระดับต้นของ Kodak แล้ว เป็นฟิล์มรุ่นใหม่ที่ Kodak พัฒนามาเพื่อสมัยปัจจุบันกาลที่คนถ่ายฟิล์มมักจะสแกนรูป ไม่ค่อยอัดเป็นรูปกันแล้ว และเน้นใช้ถ่ายคน ชื่อก็บอกโต้งๆ.. แต่มันไม่ได้มีดีแค่ถ่ายคน มันใช้ถ่ายอื่นๆก็ดีหมดเบยย…
ISO 160 ก็ถือว่าแปลกกว่าชาวบ้านหน่อย ( จริงๆมีรุ่น 400 และ 800 ด้วย ไม่ต้องพูดถึงราคานะ.. ) แต่กล้องส่วนใหญ่ก็มีให้ปรับนะ ISO 160 ก็เป็นมาตรฐานสมัยก่อน ถ้ากล้องบางตัวไม่มีให้ปรับจริงๆ เราก็ต้องเลือกเอาว่าอันไหนใกล้เคียง เช่น ISO 100 หรือ ISO 200 แล้วเผื่อแสงเอาหน่อย เช่น ถ้าปรับไว้ ISO 200 มันก็จะ Under ไปหน่อยนึง ภาพที่ได้จะมืดนิดนึง
ส่วนตัวเราชอบมาก เป็นตัวแนะนำเลย ด้วยความที่มันมากกว่า ISO 100 ที่เราไม่ถนัด เพิ่มมาให้อีก 60 ก็ดีมากเลยล่ะ ใช้ถ่ายแสงทั่วๆไปได้ คล้ายๆ ISO 200 ไม่เนียนเกินไปเหมือน Ektar 100 ที่สำคัญคือ ยิ่งใครใช้กล้อง Half Frame อยู่ ขอแนะนำให้ใช้ตัวนี้ ให้สีสันนวล โดยเฉพาะที่ผิวคนนี่จะนวลสวยเลย ถ่ายวิวนี่ ถ้าเป็นท้องฟ้าจะออกฟ้าสวยมาก
ราคา
ปัจจุบัน เป็นฟิล์มใหม่ พัฒนาเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเมื่อปี 2011 พบกับราคาโหดๆได้ที่
ราคา 230 – 260 บาท
ราคา 260 – 290 บาท
ราคา 330 – 350 บาท
Voightlander VF-101
Voigtlander Bessa R3A
Olympus Pen F
6. Kodak Ultramax 400

ใครชอบความมุ้งมิ้ง ใสๆล่ะก็.. อาจจะไม่ค่อยชอบตัวนี้นะ ตัวนี้เหมาะสำหรับถ่ายในที่ร่มๆมืดๆ เรารู้สึกว่ามันมีโทนสี น้ำเงินอมแดงปนๆ คล้ายๆถ่ายหนังอะไรแบบนี้นะ แต่เราชอบ Grain ของมัน มัน Retro ดี นึกถึงสมัยเด็กๆ เห็นแล้วเหมือนดูหนังอะไรแบบนี้ เท่ๆดิบๆ เนื่องจากเนื้อฟิล์มมีความหยาบ ไวแสง แต่ถ้าใครจำเป็นต้องถ่ายแบบมุ้งมิ้งก็ต้องเผื่อให้มันแสง Over เยอะกว่าปกติหน่อย เราว่าก็พอไปวัดไปวาได้
ISO 400 นี่เหมาะกับคนชอบถ่ายที่ร่มๆมืดๆอย่างที่บอกไป แนะนำว่าเหมาะกับกล้องที่เลนส์ไม่ไวเท่าไหร่ อย่าง F2.8 , F3.5 อะไรแบบนี้ จะช่วยให้ถ่ายที่ร่มได้สบายขึ้น
ราคา
ปัจจุบัน เป็นฟิล์มใหม่
ราคา 120-130 บาท
ราคา 165-180 บาท
ราคา 180 – 190 บาท
Olympus 35 RC
Olympus 35 RC
Olympus 35 RC
7. Fujifilm Fujicolor C200

เป็นฟิล์มที่ยังเห็นในปัจจุบันกาล เทียบกับฝั่ง Kodak ก็เทียบได้กับรุ่น Color Plus 200 นั่นแหล่ะ หาได้ทั่วไป หาไม่ยาก ราคาถูกสุดของ Fujifilm แต่เห็นมาจากหลายฝั่ง ทั้งฝั่งจีน ฝั่งญี่ปุ่น คิดว่าคงไม่ต่างกัน ส่วนตัวใช้แล้วก็ถือว่าพอใช้ได้ ออกแนวเน้นสีเข้มๆ Contrast หนัก ถ้าคนชอบแนวสว่างๆ จะไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่นะ
ISO 200 เหมาะกับถ่ายทั่วๆไป ส่วนตัวเราว่าถ่ายวิวๆก็โอเค โดยเฉพาะต้นไม้ใบหญ้า สีมันค่อนข้างธรรมชาติดี เราว่า Fuji โดยรวมๆจะถ่ายต้นไม้ใบหญ้าดีกว่าแดดๆ ข้อดีของมันคือ ถูกพอๆกับ Kodak Color Plus 200 นั่นแหล่ะ ประหยัดดี
ราคา
ปัจจุบัน ถ้าแบบไม่หมดอายุ
ราคา 115 บาท
ราคา 120-130 บาท
Olympus Pen F
Olympus Pen F
Olympus Pen F
8. Fujifilm Fujicolor Superia 200

อันนี้ก็เป็นฟิล์มสุดฮิตมาหลายยุคหลายสมัย จะสู้กันนี่ก็คงสู้กับ Kodak Gold 200 นะ หาไม่ยากเหมือนกันตัวนี้ เป็นมาตรฐานเลย ถ้าในญี่ปุ่น จะมีรุ่นอื่นๆด้วย X-Tra Superia 400 , 800 ยันไป 1600 เลย แต่ในไทย 200 จะหาง่าย เท่าที่ใช้มา เราชอบสุดในบรรดา Fujifilm เลย มันถ่ายออกมาแล้วเนียนดี กำลังดีไปหมด
ส่วนตัวให้เราเลือก Kodak Ektar 100 กับ Superia 200 เราก็เลือกตัวนี้นะ มันถ่ายง่ายกว่า เนียนกำลังดี ไม่เว่อไป สีสวยกว่า C200 ถ่ายได้หมด วิว Street คน สวยหมด แต่โทนสีจะคนละทางกับ Kodak นะ อันนี้เค้าจะเข้ม เขียวโดดๆกว่า โทนสีอื่นอาจจะดูไม่แรงเท่า Kodak ราคาแพงนิด แต่คุ้ม
ราคา
ปัจจุบัน ( อัพเดท ** Fujifilm ประกาศเลิกผลิตในปี 2017)
ราคา 145 – 175 บาท
ราคา 175-190 บาท
Olympus Pen F
Olympus Pen F
Olympus Pen F
9. Fujifilm Fujicolor 100

ตัวนี้เราเห็นครั้งแรก เราชอบแพคเกจ เพราะมันขายเฉพาะในญี่ปุ่น ก็เลยเป็นแพคภาษาญี่ปุ่นเรียบๆ พื้นขาว ตัวหนังสือเขียว เป็นตัวเบสิคๆ คล้ายๆ Kodak Color Plus 200 บ้านเรา ที่จะไม่เห็นใน Official ของแบรนด์ Fujifilm แต่หาได้ไม่ยากในญี่ปุ่น เราลองหามาขายเล่นๆในเพจตัวเอง ใช้เองไปด้วย หลายๆเพจเราก็เห็นเอามาขายเรื่อยๆนะ
โทนภาพเราว่ามันดู Contrast โอเคกว่าตัว C200 ส่วนตัวชอบมากกว่า C200 อันนั้นมันหนาๆไป บอกไม่ถูก อันนี้ดูมีมิติกว่า ทั้งๆที่เราเองก็ไม่ถนัด ISO 100 นะ แต่ก็ชอบ และมันก็ยังคงเอกลักษณ์ของ Fuji เอาไว้ คือโทนอมเขียวธรรมชาติ คือถ้าเจอใบไม้ใบหญ้านี่สีจะจริงมากกก แต่ถ้าสีอื่นๆจะดูตุ่นๆกว่าชาวบ้านเค้าหน่อย เช่น ดอกไม้สีสดๆ อย่างโทนแดงๆ (ใครชอบจัดๆนี่ ตัวนี้ไม่เหมาะ) เหมาะกับวัยรุ่นแนววินเทจ ชอบสีเบรคๆ อันนี้แนะนำ
ISO 100 เอาไว้ถ่ายแดดๆ ดอกไม้มุ้งมิ้งๆ ก็สวยดี สีไม่จัดมาก ถ่าย Street ก็เหมาะดีนะ
ราคา
ปัจจุบัน แบบ 36 ภาพ ราคา 155 – 175 บาท แล้วแต่ร้าน แบบหมดอายุแล้วก็มี ราคาเท่าๆกันนี่แหล่ะ ต้องเช็คกับร้านที่ขายก่อนว่าเป็นแบบไหน
Voigtlander Bessa R3A
Olympus 35 RD
Olympus 35 RD
10. Solution VX200

ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ยี่ห้อนี้กำเนิดมาตอนไหนเมื่อไหร่ แต่ตัวนี้เป็นตัวที่ฮิตๆในบรรดาคนนิยมฟิล์มบูด ว่ากันว่าในอีกไม่ช้า จะไม่ได้ใช้กันแล้ว เพราะรุ่นสุดท้ายของมันคือหมดอายุปี 2011 (แต่ก็ยังมีมาขายกันเรื่อยๆ) เจ้าตัวนี้ฮิตเพราะสีสดมาก สดยังกะฟิล์มสไลด์ คือฟิล์มสไลด์สีมันจะจัดๆนะ ฟ้าก็โคตรฟ้า แดงก็โคตรแดงอะไรแบบนั้น แต่ต้องเผื่อใจนิดว่า จะเกิดเอฟเฟคแบบไม่คาดคิดที่รูปไหนก็ตอบไม่ได้
ISO 200 เหมาะกับถ่ายทั่วๆไป จริงๆถ้ามาทางฟิล์มบูดนี่ก็ถ่ายได้หมดนะ ถ่ายเอาสนุกมากกว่าเอาจริงจัง สวยดีๆ เป็นฟิล์มที่แนะนำให้ลองสักครั้งเลย
ราคา
ปัจจุบัน รุ่นสุดท้ายคือหมดอายุปี 2011 ราคาแล้วแต่ล็อตเลย 140 – 150 บาท แล้วแต่ร้าน ส่วนใหญ่มีขายเฉพาะตามเพจ facebook นะ (อัพเดทล่าสุด ของหายาก และราคาถีบสูง)
อัพเดท ** ปัจจุบันไม่เหลือในตลาด ถ้าเหลือคือฟิล์มที่หมดอายุนานแล้ว
Minolta Hi-matic F
Yashica Electro 35
Yashica Electro 35
11. eFinity UXi 200

ตัวนี้ก็เป็นอีกตัวที่ฮิตๆในตลาด เค้าว่ากันว่าเป็นตัวที่ ReBrand ของ Fujifilm ไม่รู้จริงหรือเปล่า โทนสีของตัวนี้ค่อนข้าง Soft แต่โทนสีเขียวจะชัดเจน สีฟ้าสวยดี Grain ฟิล์มสวย (ดูๆไปก็คล้ายๆ Fujifilm จริงๆ ) เหมาะอย่างยิ่งจะออกไปถ่ายข้างนอก ดอกไม้มุ้งมิ้งอะไรก็ว่าไป ขอให้มีแสงธรรมชาติๆช่วยนะ จะสวย (ถ้าไม่โดนแสงแดด จะดูทึมๆไปหน่อย)
ISO 200 ก็ถ่ายได้หมด จะกลางแจ้ง จะในร่ม ใช้ได้หมด ตัวนี้ค่อนข้างอเนกประสงค์ล่ะ
ราคา
ปัจจุบัน ราคาแล้วแต่ล็อตเลย 140 – 160 บาท แล้วแต่ร้าน แล้วแต่ล็อตที่เข้ามา ส่วนใหญ่มีขายเฉพาะตามเพจ facebook นะ
** ปัจจุบันเริ่มหายากมากๆแล้ว เพราะเลิกผลิตไปนานมาก
Olympus Pen F
Olympus Pen F
Olympus Pen F
12. AGFA Vista 200

ฟิล์มสัญชาติเยอรมัน ซุปเปอร์คลาสสิคในอดีตกาล ปัจจุบันยังจำหน่ายอยู่ ภายใต้บริษัท AGFAPHOTO รุ่นนี้จริงๆมีตั้งแต่ 100 , 200 , 400 ครบเลย แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 200 กับ 400 นี่แหล่ะ ตัวนี้มีก็ตั้งแต่ฟิล์มใหม่ ยันหมดอายุ เท่าที่ลองมาเราว่าเหมาะกับถ่าย Street หรืออะไรที่มี Shade มีเงาหน่อยนะ ถ้าอะไรที่เน้น Contrast ก็จะเห็นความลึกดี สวยเลย กินพวก Kodak Color Plus หรือ Fuji รุ่นถูกๆเรียบเลย แต่เราไม่ค่อยชอบมันไปถ่ายต้นไม้ใบหญ้าเท่าไหร่ มันดูแห้งแล้งไปหน่อย แต่ถ้าถ่ายตามถนน เดินเยาวราช อาซิ้มนั่งขายผลไม้อะไรแบบนี้ Street ๆ จะสวยมาก
ISO 200 ก็ถ่ายได้ทั่วไปแหล่ะ แต่เราว่าถ่ายในที่ร่มๆหน่อย มันสวยดี ถือว่าเป็นฟิล์มที่ใช้ได้ทุกโอกาส ราคาอาจจะสูงนิดหน่อย แต่คุ้มเลย ( ** Third Edition ราคาปัจจุบัน ถูก Kodak และ Fujicolor ไล่มาติดๆ เพราะฉะนั้น ถ้าเทียบกันแล้ว ถือว่าถูกมาก )
ราคา
ปัจจุบัน ราคา 155 – 180 บาท ลองดูด้วยว่าเป็นแบบฟิล์มใหม่หรือหมดอายุ (หมดอายุจะขายถูกกว่าฟิล์มใหม่พอสมควร แลกกับอายุฟิล์มที่อยู่ได้นานขึ้นอีกหลายปี และความเสี่ยงเรื่องคุณภาพ)
Olympus Pen F
Voigtlander VF-101
Voigtlander VF-101
13. Tudor XLX 200
ฟิล์มเด็กแนว ตัวนี้ยังมีผลิตกันอยู่ในตลาด สัญชาติอังกฤษ ว่ากันว่า Fujifilm ผลิตให้ (อีกแล้วเหรอ..) จริงๆตัวนี้ในอังกฤษเค้าขายกันเป็นตัว Low Cost แบบที่บ้านเราขาย Kodak Color Plus 200 นั่นล่ะ ซึ่งส่วนตัวเราว่ามันคล้ายๆ Superia 200 นะ แนวๆเน้นเขียวๆหน่อย แต่ว่าไม่ได้จัดเข้มเท่าของ Fuji เค้า สีจืดซีดกว่า อมแดงๆหน่อย ออกมาแนวๆดี ส่วนตัวคิดว่าถ่ายหนุกๆดี ถ้าเบื่อพวกค่ายหลักๆแล้วต้องการเปลี่ยนอารมณ์บ้าง
ISO 200 ก็ถ่ายทั่วไปนะ เราว่าตัวนี้ถ่ายกลางแจ้งสวยดี ดอกไม้มุ้งมิ้ง สบายๆ วิวๆอะไรแบบนี้ แต่สีสันอาจจะไม่ได้จัดจ้านมาก เบรคๆหน่อย
ราคา
ปัจจุบัน ราคาแล้วแต่ล็อตที่มา อย่าลืมเช็ควันหมดอายุนะ มันมีแบบหมดอายุ และยังไม่หมดอายุด้วย เพราะปัจจุบันก็ยังผลิตกันอยู่ ราคา 150 – 160 บาท แล้วแต่ล็อต แล้วแต่ร้าน หาได้ตามเพจเช่นกัน
** ปัจจุบันเป็นแบบหมดอายุ เพราะผลิตมานานแล้ว และเลิกผลิตไปแล้วเช่นกัน
Olympus Pen F
Olympus Pen F
Olympus Pen F
ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาถึงตรงนี้ เราค่อนข้างใช้เวลาพักใหญ่ๆในการรวบรวมข้อมูลตรงนี้ ทั้งเทสกล้องเทสฟิล์มไป หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับมือใหม่มือเก่าที่รักกล้องฟิล์มนะ 🙂
แถมท้ายด้วยลิ้งร้านขายฟิล์มต่างๆบนเพจ Facebook จะได้หากันง่ายๆหน่อย
บทความ โดย SUN



ผู้สนับสนุนหลัก Husband and Wife Shop
จำหน่ายอุปกรณ์ถ่ายภาพฟิล์มกล้องอุปกรณ์ล้างฟิล์มสแกนฟิล์มและบริการต่างๆ

ขอบคุณมากเลยครับ
เห็นแล้วชอบโทนของ Kodak Colorplus 200, Ektar 100, Portra 160, Fuji C100 มากๆ
แต่ตอนนี้ลองเทสฟิล์มม้วนแรกกับ Colorplus 200 รอลุ้นอยู่ว่าจะออกมาเป็นยังไง
ขอบคุณที่ติดตามอ่านเช่นกันครับ ขอให้ได้ภาพสวยๆนะครับ ^^
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ หากมีข้อมูลฟิล์มขาวดำ รบกวนด้วยนะครับ
ปล.อยากให้ช่วยแนะนำเรื่องการล้าง สแกน ด้วยตัวเองสำหรับมือใหม่ด้วยครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ ถ้ามีโอกาสจะหาข้อมูลมาเขียนเพิ่มเติมให้ครับ ^^
โอ้ ข้อมูลเยี่ยมมากครับขอบคุณมาก
เออ เจ้าฟิล์ม Solution ผมก็สงสัยจริงๆ มันมาแบบ งงๆ ไปแบบงงๆ ผมเองรู้ตัวอีกทีก็มีอยู่เกือบสิบม้วนได้ ไปซื้อมาตอนไหนก็ไม่รู้ งงๆ 5555555 แต่ผมชอบสีมันนะ เอาไปทำ Redscale มาใช้ได้เลยทีเดียว
ตอนนี้ถ้าเป็นเนกาตีฟสี ผมติดใจ Ektar 100 สุดแล้วสำหรับ Kodak ส่วน Fujifilm ไม่ค่อยได้ใช้เลยแฮะ มี Pro400H อยู่ยังไม่ได้ลอง แพงดีแท้
อีกยี่ห้อนึงที่ติดตราตรึงใจผมมากเมื่อก่อนคือ Lucky ไม่รู้ตอนนี้หายไปไหนแล้ว เสียดาย ถูกดี สีงั้นๆ แต่ทำ Redscale แจ่มสุดๆ
ปล. ตอนนี้อยู่ญี่ปุ่นซื้อฟิล์มล้างฟิล์มทีน้ำตาจะไหล T_T แพงกว่าบ้านเรามาก ไอตอนอยู่ไทยก็บ่นจะตายอยู่แล้วว่าฟิล์มแพง พอมาอยู่นี้เจอของจริง Ektar 100 ม้วนละเกือบ 800 เยน T_T ค่าล้างอีก 600 เยน!!! ไม่รวมค่าอัด/สแกน
Lucky ยังมีขายอยู่ครับ แต่ขายตามเพจ facebook มากกว่าตามร้าน 🙂
จริงหรอครับ ผมไม่เห็นเลยนะ T_T
ขอบคุณมากค่าาาา ^^
ผมถ่ายไปเรื่อยเลยแหะ ไม่ค่อยจดว่าอะไรมาจากฟิล์มอะไร ต้องเริ่มจดละ ขอบคุณมากครับ
Reblogged this on Gibbs Free Energy and commented:
เก๋กู้ด
ดีจังเลยค่าาาา
Reblogged this on pangg w..
เพิ่งหันมาใช้กล้องฟิล์มยังไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่ ขอบคุณมากเลยนะคะ
อยากเก็บให้ครบทุกแบบเลยย 555555
FC ครับคุณ Artyt ผมมือใหม่ฝากตัวด้วยคับ