หลังจากการเปิดตัวของฟิล์ม Instant ฟอร์แมตล่าสุดของ Fujifilm นั่นคือ Fujifilm Instax Sqaure เมื่อสองปีก่อน ก็น่าจะพิสูจน์ในระดับนึงว่าตลาดนี้ค่อนข้างต้อนรับฟอร์แมต Sqaure เป็นอย่างดีทีเดียว โดยเฉพาะหลังจากที่ทาง Fujifilm รุกหนักกับกล้องรุ่นล่าสุดคือ SQ-6 ที่ดูสมเหตุสมผลทั้งราคาและคุณภาพ
ทาง Lomography เองก็หวังกับฟอร์แมตนี้ไม่น้อย เพียงแต่การเปิดตัวกล้องที่ใช้ฟิล์ม Instax Sqaure ตัวแรกของค่ายคือ Lomo’Instant Square กลับไปเปรี้ยงปร้างอย่างที่คาดการณ์กันไว้มากนัก จากประสบการณ์เราที่ลองใช้ก็คิดว่าความคล่องตัวในการใช้งานของมันไม่ค่อยมีเท่าที่ควร ด้วยวิธีการที่ต้องพับเปิด-ปิด และระยะเลนส์ที่ใช้ ถ้าจะเอาสวยน่ะก็สวยอยู่แล้ว แต่ก็น่าจะเป็นปัญหาหลักๆของเจ้าตัวนี้ไปด้วย
นี่เลยกลายเป็นความพยายามครั้งใหม่ ที่ทาง Lomography หันมาแก้เกมให้ทันท่วงทีที่สุด และไม่ทับทางกับเจ้า Lomo’Instant Sqaure ไปด้วยในตัว การนำเอากล้อง Diana สุดคลาสสิกของพวกเขามาสร้างในฟอร์แมตฟิล์ม Sqaure แบบนี้เลยดูจะลงตัว เข้าท่าดี
ตามเทรนของการออกผลิตภัณฑ์ของ Lomography ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ก็ยังคงใช้ Kickstarter เป็นตัวหยั่งเชิงตลาดและระดมทุน เจ้า Diana Instant Sqaure ถูกประกาศใน Kickstarter ตั้งแต่กลางปี 2018 และมันก็ดูมีท่าทีไปได้สวยทันที
จนตอนนี้ ก็ถึงเวลาที่ Diana Instant Sqaure ได้วางตลาดจริงๆจังๆสักที และมันก็มาอยู่ในมือเราเรียบร้อย!! เอาตามตรงคือเราเองก็ไม่ใช่แฟน Diana สักเท่าไหร่ แต่ก็ยอมรับว่าชอบหน้าตากล้องมันมากเลย แค่คล้องก็หล่อทันที คล้องไปสาวๆก็มอง (มองกล้องนะ ไม่ใช่มองกู) ซึ่งพอกล้องมันเดินทางมาถึงจริงๆ มันก็ยังคงความสวยแบบไม่ผิดหวังเช่นเคย
Diana Instant Sqaure มีขนาดใหญ่กว่า Diana F+ มาตรฐานอยู่ไม่น้อย แต่ที่ใหญ่กว่าชัดๆก็เห็นจะเป็นที่กระบอกเลนส์ เพราะฟิล์มพวกนี้จะต้องรับภาพตรงๆมาบนแผ่นฟิล์ม ฟิล์มใหญ่แค่ไหน กระบอกเลนส์และตัวบอดี้ก็ต้องใหญ่ประมาณนั้นแหล่ะ อันนี้ช่วยไม่ได้จริงๆ แต่ถ้าเทียบกับ Fujifilm SQ-6 แล้วก็ไม่ต่างกันมากทั้งขนาดและน้ำหนัก

ส่วนถ้าให้เทียบกับ Lomo’Instant Sqaure แล้วก็ถือว่าคนละรูปแบบไปเลย เพราะ Lomo’Instant Sqaure เองจะดูเทอะทะเมื่อกางเอาเลนส์ออกมา และน้ำหนักตัวก็จะมากกว่าพอสมควร ซึ่งก็แลกมากับความสวยและคุณภาพภาพที่ถ่ายออกมาดีกว่าเจ้า Diana
ใครคิดจะใช้ Diana Instant Sqaure ก็ต้องเข้าใจมาก่อนแล้วว่าสไตล์ภาพของกล้อง Diana คือโทน Lo-fi แบบยุค 1960s ไม่ใช่คนที่จะเน้นภาพคมชัด มีถูกต้องอะไรแบบนั้น เพราะภาพออกมามันก็เป็นสไตล์เฉพาะทาง ดูเมายาๆหน่อย คูลๆวัยรุ่นๆน่ะนะ ซึ่ง Diana Instant Sqaure ก็มี DNA ของกล้อง Diana อยู่อย่างไม่ขาดตกบกพร่องใดๆ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กล้อง Diana พยายามจะแปลงร่างไปใช้ฟิล์มพวก Instant เพียงแค่ครั้งนี้มันไม่ประดักประเดิดเหมือนครั้งที่ต้องซื้อ Option ตัวปริ๊นท์ฟิล์ม Instax Mini มาติด ครั้งนี้ดูกลมกลืนลงตัวเอามากๆ การออกแบบที่ปรับจากประสบการณ์ Lomo’Instant ตัวที่ผ่านๆมามากมาย ทำให้มันลงตัวดีทีเดียว
มาดูสเปคกันเล็กน้อย
สเปคของกล้อง Diana Instant Square และการทำงานค่อนข้างใกล้เคียงกับกล้อง Diana ปกติอยู่แล้ว โดยเลือกใช้เลนส์ระยะ 75mm หรือเทียบเท่าประมาณ 38mm ในฟอร์แมต 35mm ก็เรียกว่ากำลังดีเลย ส่วนสเปคอื่นๆ เช่น
- ปรับรูรับแสงได้ 4 แบบ f/11 , f/19 , f/32 และ f/150 (Pinhole)
- ความเร็วชัตเตอร์แบบตายตัว 1/100 sec ที่โหมด N และมี Shutter B ให้
- โฟกัสแบบกะระยะ (Zone Focus) 1-2 ม. / 2-4 ม. / 4 ม. ถึง Infinity
- ต้องใช้แบตเตอรี่สำหรับฟีดตัวฟิล์ม AAA x 4 ก้อน
การใช้งานจริง
ด้วยความที่เป็นกล้องประเภทกะแม่งทุกอย่างตั้งแต่ แสง / ระยะ / เฟรม เพราะฉะนั้นก็ต้องใช้จิตวิญญาณวัดใจพอสมควร เริ่มจากดูดินฟ้าอากาศที่จะถ่ายด้วยว่าแสงเป็นยังไง เจ้า Diana Instant Sqaure เป็นกล้องที่อาศัยแสงเยอะ แม้ว่าฟิล์ม Instax จะเป็นฟิล์มไวแสง ISO 800 แล้วก็ตาม เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกว่ามันครื้มๆร่มๆ ให้ซัดแฟลชเข้าไปเถอะ.. ความแตกต่างของ Diana F+ กับเมื่อมันใช้ฟิล์ม Instant แน่ๆเลยก็คือ ตอนที่มันใช้ฟิล์ม 120 เนี่ย ต่อให้เราถ่ายอันเดอร์ ตอนสแกนฟิล์มก็ยังดึงภาพขึ้นมาได้ แต่..ๆๆ พอเป็นฟิล์ม Instant แล้ว… มืดแล้วมืดเลย สามสิบกว่าบาทค่าฟิล์มแต่ละแผ่นจะสูญสลายไปในอากาศ
วิธีถ่ายก็ง่ายมาก มันจะมีชัตเตอร์เป็นไกหน้าตาเดียวกับ Diana F+ นั่นแหล่ะ แต่ก่อนจะกดก็กะระยะภาพซึ่งมีให้เลือก 3 ระยะคือ 1-2 ม. / 2-4 ม. / 4 ม. ถึง Infinity แต่จากการทดสอบ ลองถ่ายใกล้สัก 50 ซม. ก็ไม่เลว ได้อยู่ และก็ปรับรูรับแสงที่มีให้เลือก 4 แบบ แต่ส่วนใหญ่ก็ใช้แค่ 3 แบบ f/11 , f/19 , f/32 ส่วน Pinhole นั่นถ้าไม่ถ่ายพิเรนๆมากจริงๆก็ไม่ได้ปรับไปอยู่แล้ว
เมื่อกดถ่าย ฟิล์มก็จะถูกฟีดออกมาเหมือนกล้อง Lomo’Instant ทุกรุ่น และก็มีตัว Counter บอกว่าถ่ายไปกี่ภาพ (ซึ่งน่าจะเป็นชิ้นส่วนมาจาก Lomo’Instant mini เดิม) โดยรวมการทำงานก็เรียบง่ายและไม่ติดปัญหาอะไร
ส่วนการใช้แฟลช ก็ออกมาสวยดี สนุกดี ถ่ายกลางแจ้ง เปิด f/32 ยิงแฟลชก็ได้ภาพชัวๆล่ะ อันนี้ถือว่าเป็นข้อดีของกล้องประเภทนี้ คือถ้าไม่แน่ใจก็ซัดแฟลชซะเลย แถมด้วยถ้าใครเป็นพวกบ้าแนวยิงแฟลชมากๆ เค้ายังมีอะแดปเตอร์เปลี่ยนเป็น Hot Shoe เสียบแฟลชทั่วไปได้อีกด้วย เจ๋งเลย
ผลงานที่ได้
ค่อนข้างโอเคกว่าที่คิด อาจจะด้วยตั้งแต่การใช้งานที่รู้สึกสบายกว่าตอนใช้ Lomo’Instant Square และภาพที่ออกมา อาจจะแตกต่างไปจาก Instant ตัวอื่นๆ แต่ก็ได้ความแปลกๆเท่ๆดี วัยรุ่นๆ ใครจีบสาวอยู่นี่พาไปถ่าย กรุ๊กกริ๊กไปมา เดี๋ยวก็ได้กันไปเอง






สรุปเลย
ถ้าถามส่วนตัวคือเป็นกล้องที่ถ่ายสนุกดี สนุกกว่า Lomo’Instant Square เพราะมันสะดวกกว่า เบากว่า แต่ถ้าพูดเรื่องคุณภาพภาพ คงไม่ได้ เพราะมันคนละทางเลย ถ้าอยากได้สะดวก คุณภาพดี แนะนำให้ไป Fujifilm SQ-6 แต่ก็จะหน้าตากล้องไม่สวยเท่าฝั่ง Lomo อันนี้ก็ต้องเลือกข้างเอา
สำหรับใครที่ถ่ายเอาแปลก เอาเพลิน ก็แนะนำเลย ราคาไม่แพงด้วย ซื้อเซ็ตที่มีแฟลชจะคุ้มกว่า เพราะเชื่อว่า 50% ของสถานการณ์ที่ใช้เจ้านี่ ต้องการใช้แฟลชแน่ๆ
รูปร่างหน้าตา // ★★★★★
(Lomo ไม่เคยทำให้คุณผิดหวังเรื่องความหล่อสวย)
วัสดุ // ★★★☆☆
(พลาสติกตามสไตล์ Diana)
คุณภาพการถ่าย // ★★★☆☆
(เช่นกัน..จะเอาอะไรกับกล้องและเลนส์พลาสติก)
ฟังก์ชั่น // ★★★☆☆
(ไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือใดๆ นอกจากดวงและสรวงสวรรค์)
คุ้มค่า? // ★★★★☆
(เอาไว้ห้อยหล่อๆก็คุ้มแล้วจ้าาา)
รีวิว โดย SUN



ผู้สนับสนุนหลัก Husband and Wife Shop
จำหน่ายอุปกรณ์ถ่ายภาพฟิล์มกล้องอุปกรณ์ล้างฟิล์มสแกนฟิล์มและบริการต่างๆ
