Site icon // a r t y t ' s b l o g : บ ล็ อ ก ข อ ง อ า ทิ ต ย์ //

รีวิวกล้องฟิล์มแบบบ้านๆ Fujifilm Tiara II คุณนายสายลับ

Created with RNI Films app. Preset 'Agfa Optima 200'

Advertisements

ลองถอยกลับไปดูว่าเขียนรีวิวกล้องตัวล่าสุดคืออะไร.. อ่อ TC-1 (นี่จะเขียนแต่ Premium Compact กันเลยเหรอวะ ?) แต่ก็ต้องยอมรับมันจริงๆ ว่ายุคนี้เป็นยุคของ Premium Compact ความสะดวกสบาย บางครั้งแบกไลก้าไปก็แอบคิด เออ..เอาแต่คอมแพคมามันก็ได้อยู่นะ..

แต่ตัวที่เข้ามือจริงๆ จะมีสักกี่ตัวล่ะ สำหรับเรา Ricoh GR-1 นี่ถือว่าสะดวกในการจัดวางตำแหน่งและฟังก์ชั่นมากๆ ให้เป็น The Best เลย แต่เสือกไม่ชอบสีแม่ง เกลียดจน ถ้าเปลี่ยนเลนส์มันได้ ก็ทำไปแล้ว หงุดหงิดส่วนที่สุดของเรา ก็ Fuji Klasse ทั้ง S ทั้ง W นั่นแหละ ถึงจะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่ก็โอเคที่สุดแล้ว

โอเคสิ..สัส ล่าสุดวิ่งไปแตะ 4 หมื่นแล้ว.. ใช้ไม่ลงเลย จากซื้อมาหมื่นนิดๆ ตอนนี้ก็ถอดถ่านเก็บไปเลย

เดือดร้อนจะหาตัวรองๆลงมา ที่พังแล้วจะไม่เจ็บมาก ก็ต้องวนกลับมา Ricoh GR-1 แต่..ไม่ทันได้เจ็บ มึงก็พังแล้ว มีอยู่สองตัวเสือกพังทั้งคู่ จอดอู่กันเป็นปี ยังไม่ได้เลย

ก็ได้ไปพึ่งพิงใต้ร่ม Yashica T4 อยู่พักหนึ่ง ไอ้ภาพน่ะมันดี แต่มันใช้ได้ในสถานการณ์จำกัด T4 นี่ถ้าเจอ Shot ที่เป็น Layers ก็จบเห่ เคยมาแล้วไม่ใช่อะไร.. ถ้า GR มันยังสู้ได้

เดือดร้อนกันต่อไป.. ด้วยความบังเอิญ วางผังทำคลิปรีวิว เกิดอยากลอง Fujifilm Tiara ขึ้นมา คือได้หยิบๆจับๆหลายครั้ง แต่ไม่ได้สนใจ เพราะหน้าตามันดูคุณนายเหลือเกิน ไม่น่ามีพิษสงอะไร

ประกาศหาบนเพจตัวเองอยู่นาน จนกะจะสั่ง eBay อยู่แล้ว ก็มีน้องๆร้านกล้องใน IG มาเสนอขายให้ จริงๆมีพร้อมๆกันอยู่หลายคน แต่ที่น่าสนใจสุดก็เป็น Tiara II กูก็ต้องเอาใหม่สุดแหละ

ได้มาวันแรกก็เก็บนิ่งๆ อีกวันไปเดินถ่ายรูปทำคลิป One Hour Photo Walk ก็เลยพกมันไปด้วย กะว่าก็กล้องคอมแพคโหมดโปรแกรมธรรมดาๆ ถือเป็นการลองใช้

เดินได้ 5 นาที เป็นเรื่อง เจอซีนที่แบบ ต้องคอมแพคอ่ะๆ ยกแม่งขึ้นมา ไอ้เหี้ย..เปิดแฟลชยังไง อ่าวสัส ไปกดโดนวันที่ ปิดยังไงวะ อ่าวโหมดเหี้ยไรขึ้นมาอีก ปิดไงวะ อ่าว กดวนไปวนมา ไอ้สัส งงไปหมด

สรุปคือลุงที่เป็น Subject เดินผ่านไปผ่านมาจนเลยไปโน่นแล้ว กูยังกดเมนูวนไปวนมาอยู่เลย… นี่คือโทษฐานการไม่ทำการบ้านมาก่อน กว่านั้นคือตลอด 1 ชั่วโมงนั้น ก็ยังบ่นต่อไป “ไอ้เหี้ย มึงเปิดแฟลชตรงไหนวะ” เพราะในเมนูมันมีแค่แฟลชแก้ตาแดง กับแฟลช Portrait กลางคืน วันนั้นเลยถ่ายด้วยแฟลชแก้ตาแดงไปเรื่อย ๆ

ความซวยบังเกิดกว่านั้นคือ พอกลับมาล้างฟิล์ม สัส… ไลก้าแม่งฟิล์มใสมาเลย อุตส่าห์ลุ้นชอตนึง เป็นอันจบ ก็ยังดีที่ใช้เจ้า Tiara ถูๆไถๆมาบ้าง

แต่ 1 ชั่วโมงนั้น ก็มี sense บางอย่างว่า เฮ้ย เหมือนมันจะมีอะไรให้เล่นเยอะว่ะ แถมล้างออกมาแล้วก็ว้าวนะ ถึงจะคนละโทนกับ T4 แต่สีเอย ความคมเอย เอาเรื่องว่ะ

ว่าแล้วเปิดหาแฟลชต่อ แล้วก็ค้นพบว่า ไอ้เหี้ยย!!! กล้องเหี้ยไรเนี่ย!!! ปกติกล้องคอมแพคที่ไหนก็เหอะ เปิดมาเค้าก็ต้องเป็นโหมดออโต้ คือกลางวันไม่ยิงแฟลช ถ้าแสงไม่ก็ยิงแฟลช ไอ้สัสนี่มึงเป็นใคร.. เปิดมาคือยิงแฟลชเลย.. Bruce Gilden ออกแบบมึงเหรอ แต่… ไอ้สัส เฟี้ยวว่ะ 555 มึงไม่น่าใช่กล้องคุณนายแล้วว่ะ (จริงๆคือมันจะไม่ยิงก็ต่อเมื่อมึงถ่ายภูเขาเลากาอะไรไกลๆ แบบไม่มีประโยชน์จะยิง)

ในโหมดควบคุมที่น่าสนใจคือ ปิดแฟลช สะดวกปกติ แม่งมี +ev ให้ 2 stop เฮ้ย แหมดีเว้ย อย่างอื่นกูช่างแม่ง 555 มาดูอีกโหมดสิ กดครั้งแรก เป็นรูปภูเขา นี่มาแบบเดียวกับ Nikon ตระกูล Ti มึงมี Snap แบบ Infinity ซะด้วย

ไหนลองกดอีกทีซิ… ถึงกับต้องอุทาน “พ่อคุณแม่คุณ” ไอ้เหี้ย แม่งเป็นโหมด Snap คุณนายเหี้ยอะไรจะ Snap เดินในงานกาลาดินเนอร์ เปิด Snap ใส่ท่านฑูตเงี้ยเหรอ เปิดดูสเปค Snap คือสูตร Ricoh GR-1 เป๊ะ!! 1.5m-3m ว้าวมาก

ไหนกดต่ออีก ไอ้เหี้ย.. ไปกันใหญ่แล้ว มึงเป็นใคร กล้องเจมส์ บอนด์หรือไง สัส..แม่งมีโหมด Manual Focus แบบ Klasse แบบ GR-1v เอาจริงคือเมนูแม่งคือคล้าย GR-1v เลย!

โหมด Snap

โหมด Snap จะใช้ได้เป็นช็อต ๆ จะถ่ายใหม่ก็ต้องกด โหมด Snap ใหม่ แต่เดี๋ยวก่อน.. อย่าเพิ่งหัวเราะเยาะ เพราะถ้าเจอซีนทีต้องรัวให้หมดม้วน ก็ทำได้ แค่กดโหมด Snap ค้างไว้ 2 วิ มันจะกลายเป็นปืนกลให้มึงรัวอย่างสาสม

ตั้งค่า Manual Focus ละเอียดมาก

มึงช่างไม่มีความเมตตาปราณี มีสกุนรุนชาติอย่างหน้าตามึงเลย นี่มันกล้องสตรีทเถื่อนชัดๆ

พอมองดูเลนส์มัน อ่าวไอ้สัส เสือกโค้ดเลนส์เดียวตระกูลเดียวกับ Klasse อีก Fujinon Super EBC 28mm f/3.5 เฮ้ยต้องเทสแล้วมึง ว่าแล้วเราก็จับชนกับ Klasse W แบบชอตต่อชอต ตั้งใกล้ กลาง ไกล แล้วซูมดูต้วหนังสือ ปรากฏว่า เฮ้ย มึงยังสู้ Klasse ไม่ได้ก็จริง แต่ก็ไล่หลังไม่มาก เอาเรื่องๆ

Klasse W ระยะ 0.35m. ขยาย zoom
Tiara II ระยะ 0.35m. ขยาย zoom

ชักจะสนุก เลยเปิดคู่มืออ่านจริงจัง ค้นพบว่ามันออกแบบมาดีเลยนะ เหมือน Klasse ที่ลดสเปค

(เสียดาย TC-1 ไม่มาทางนี้) ถึงจะไม่ฉลาดระดับ Premium อย่าง Klasse อย่าง Contax T3 แต่ก็มีอะไรให้เล่นมากกว่าเกรด Yashica T4 คือแม่งอยู่ระหว่างกลาง

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ Dimension และน้ำหนักของมัน!! เฮ้ย มึงสู้กับ Contax T3, Minolta TC-1 ได้สบายว่ะ บางส่วนมึงดีกว่าเค้าด้วย ที่สำคัญใน 3 ตัวนี้ มึงเบาสุด!! เชรดเป็ด

นี่ต้องเรียกว่า Pre-Premium Compact พิษสงร้ายเหลือ เอาเป็นว่า ถ้าคนได้รู้พิษสงของมันเยอะขึ้น ราคาแม่งไม่อยู่เท่านี้แน่!! (เช็คกันเอาเอง แต่แม่ง underrated)

ต้องเข้าใจรุ่นที่วุ่นวายแบบญี่ปุ่นๆก่อน ฟังดีๆนะ!! คือจริงๆรุ่นแรกมันขายตอนปี 1994 มี 2 ชื่อ Cardia Mini Tiara อันนี้ขายในญี่ปุ่นอย่างเดียว แต่แม่งเสือกเกิดอยากขายแถวยุโรป ก็ต้องมีอีกชื่ออีก เป็น DL Super Mini อ่ะ จบไปรุ่นแรก

ต่อมาปี 1996 แม่งผลิตอีกเป็นรุ่น Fujifilm Tiara II อันนี้ชื่อเดียวเสียวทั่วโลก (แล้วมึงไม่ทำงี้ตั้งแต่แรก) คนก็คิดว่า เฮ้ยแม่งมีอัพเกรดเว้ย ใช่.. แม่งอัพเกรด อัพเกรดเอาห่วงคล้องสายจากข้างล่าง เอามาไว้ข้างๆแทน อีเหี้ยยย

คือวิศวกรมึงอยู่ๆก็ขี้เกียจงิ ให้โปรดักดีไซน์ทำงานแทน เลี้ยงเปลืองข้าวสุกนะมึงน่ะ สรุป 2 รุ่นนี้คือเหมือนกันเป๊ะ!! แต่ราคาในตลาดไม่ใช่อย่างนั้นสิ ไอ้รุ่น 1 ดันถูกกว่ารุ่น 2 อยู่สัก 2-3 พัน

ใครมี มึงกำไว้แน่นๆ กูบอกเลย แม่งวิ่งแน่ ไอ้สัส!!!!

สรุปข้อดีที่ชอบ

ข้อเสียก็มีกันมั่ง

ไม่ต้องทำแล้วตารงตารางรีวิวนะ ใครว่าไงไม่รู้ กูให้เต็มหมด บอกงี้เลย

บทความ โดย Sun

ผู้สนับสนุนหลัก  Husband and Wife Shop

จำหน่ายอุปกรณ์ถ่ายภาพฟิล์มกล้องอุปกรณ์ล้างฟิล์มสแกนฟิล์มและบริการต่างๆ

Exit mobile version